6 เทคนิคเรียนคณิตศาสตร์ให้เก่งขึ้น ฉบับคนเข้าใจยาก

คณิตศาสตร์

·

โพสต์เมื่อ 26 มีนาคม 2565

6 เทคนิคเรียนคณิตศาสตร์ให้เก่งขึ้น ฉบับคนเข้าใจยาก

เคยเป็นไหม? เรียนยังไงก็ไม่เข้าใจคณิตศาสตร์ รู้จักสูตรเยอะแยะ จำได้หมด แต่ถึงเวลาสอบ ก็ทำไม่ได้อยู่ดี

เคยเป็นไหม? เรียนยังไงก็ไม่เข้าใจคณิตศาสตร์ รู้จักสูตรเยอะแยะ จำได้หมด แต่ถึงเวลาสอบ ก็ทำไม่ได้อยู่ดี ยิ่งตอนเรียนไม่ต้องพูดถึงเลย เรียนยังไงก็ไม่เข้าใจ เป็นวิชาที่รู้สึกยาก ยากมาก โครตยาก ยากสุดๆ และมีความคิดว่า “คณิตศาสตร์เป็นวิชาที่ไม่เหมาะกับเรา เราเป็นคนเข้าใจยาก เป็นคนหัวช้า เรียนคณิตศาสตร์ไม่ได้

ถ้าใครมีความคิดเหล่านี้ ให้ลองอ่าน และทำตามบทความนี้ดู พวกเรา fellowie รวบรวม เทคนิคที่จะช่วยให้เรียนคณิตศาสตร์เก่งขึ้น ฉบับบคนเข้าใจยากมาให้แล้ว ถ้าอ่านแล้ว ก็อย่าลืม!!! ฝึกทำตาม 6 เทคนิคนี้สม่ำเสมอด้วยนะ รับรองทุกคนจะเริ่มชอบคณิตศาสตร์มากขึ้น และรู้สึกว่าคณิตศาสตร์ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป 

1. มีทัศนคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ 

หลายๆคน มีทัศนคติที่ลบต่อคณิตศาสตร์ตั้งแต่เห็นโจทย์ หรือพูดชื่อวิชานี้ เกิดการปิดกั้นตัวเองที่จะเรียนรู้วิชานี้ ทำให้ไม่อยากเรียน ไม่สนใจวิชานี้ และในที่สุด ก็เกลียด หรือวิชาคณิตศาสตร์ไปเลย ซึ่งส่วนหนึ่งอาจจะเป็นการได้ยินเรื่องราวของคนอื่นมา และสร้างเป็นความรู้สึก และความคิดที่ไม่ถูกได้ เช่น ได้ยินคนอื่นบอกว่า “คณิตศาสตร์มันยาก มันสูตรเยอะ คนไม่เก่งทำไม่ได้หรอก”

แต่ความจริงแล้ว คณิตศาสตร์ เป็นวิชาเชิงตรรกะที่มีความเป็นเหตุผลทั้งหมด มีขั้นตอนในการแก้ไขปัญหา ส่วนเรื่องของสูตรนั้น ส่วนใหญ่เป็นสิ่งที่ค้นพบ หรือสังเกตได้จากการฝึกทำโจทย์บ่อยๆ เท่านั้นเอง ซึ่งถ้าทุกคนฝึกทำโจทย์บ่อยๆ ก็อาจจะค้นพบสูตรใหม่ของตัวเองก็ได้เช่นกัน 

“คณิตศาสตร์ไม่ใช่เรื่องของคนเก่ง หรือฉลาด แต่เป็นเรื่องของทุกคน”

2. สิ่งสำคัญที่สุดของคณิตศาสตร์ ไม่ใช่การจำสูตรได้ แต่คือความเข้าใจ

อย่างที่บอกไปในข้อ 1 ว่า คณิตศาสตร์เป็นวิชาเชิงตรรกะที่มีความเป็นเหตุผล และพิสูจน์ได้ทั้งหมด ดังนั้น ถ้าทุกคนเข้าใจในหลักการ หรือ “ทฤษฎีบทหรือบทนิยาม” จะทำให้เข้าใจแก่นของเรื่องนั้นๆมากขึ้น และรู้ว่าแนวทางในการแก้ไข หรือผลลัพธ์ของมันคืออะไร และจะเข้าใจ รู้ที่มาของสูตรต่างๆ ช่วยให้จำสูตรเหล่านั้นได้เอง รู้วิธีนำไปใช้โดยไม่จำเป็นต้องท่องจำเลยด้วยซ้ำ

“คณิตศาสตร์เป็นเรื่องจริง ไม่ใช่เรื่องสมมุติ ที่ไม่มีความเป็นเหตุผล หรือใช้ในชีวิตจริงไม่ได้”

3. เริ่มต้นจากแก้โจทย์ทีละขั้นตอน

คณิตศาสตร์เป็นเรื่องของความเป็นเหตุผล มีที่มาที่พิสูจน์ได้จริง (บทนิยาม) ดังนั้นถ้าทุกคนอยากฝึกคณิตศาสตร์ให้เก่ง ต้องเริ่มจากกสนแก้ไขโจทย์ทีละขั้นตอน โดยนำทฤษฎีบท หรือบทนิยามมาประยุต์ในการแก้โจทย์ เพื่อให้รู้ว่าโจทย์แต่ละข้อมีลำดับขั้น หรือวิธีคิดในการแก้ปัญหาอย่างไร อย่าง!!! คิดแต่จะหาวิธีลัดหรือสูตรเพียงอย่างเดียว เพราะ

“สูตรช่วยทำได้แค่บางโจทย์ แต่การแก้ไขแบบมีวิธีคิดทีละขั้นตอน จะช่วยทำโจทย์เลขได้ทั้งหมด”

4. รู้จักการประยุกต์ ปรับเปลี่ยน วิธีคิด หรือแนวการแก้ไขโจทย์ใหม่ๆ

รู้หรือไม่??? “คณิตศาสตร์แต่ละบทมีความเกียวข้องกันอยู่ไม่มากก็น้อย” เช่น เรื่องการแก้ไขสมการ กับเมทริกซ์ที่โจทย์สมการบางข้อ ใช้วิธีการทางเมทริกซ์แก้ไขได้เร็วกว่าใช้สูตรปกติด้วยซ้ำ” ดังนั้นเมื่อเข้าใจคณิตศาสตร์หลายๆบทแล้ว ก็ลองสังเกตดูว่า แต่ละบทมีความเกียวข้องกันหรือไม่?? ไม่แน่นะ!! ทุกคนอาจจะค้นพบสูตรหรือแนวคิดใหม่ๆ ที่ง่ายและเร็วกว่าเดิมก็ได้ หรืออาจจะนำแนวทางการแก้ไขโจทย์ปัญหาของบทอื่นๆ มาประยุกต์ใช้กับหลักการ เพื่อแก้ไขปัญหาก็ได้ ซึ่งจะทำให้มีวิธีในการแก้ไขโจทย์ปัญหาที่หลากหลายมากขึ้น และถ้านำมาใช้ได้อย่างถูกต้อง ก็จะช่วยให้ทำโจทย์ได้เร็วมากยิ่งขึ้นด้วย

“ถ้าทุกคนเข้าใจคณิตศาสตร์มากขึ้น ก็จะแก้ไขโจทย์ได้ง่ายและเร็วขึ้นด้วย”

5. อย่าลืม!!!! ตรวจคำตอบ หรือตรวจวิธีการคิดด้วย

หลังจากทำโจทย์เสร็จแล้ว อย่าลืม ตรวจตำตอบ และวิธีคิดด้วย เพราะ จุดที่ผิด อาจจะไม่ใช่การคิดเลขผิด แต่เป็นวอธีคิดที่ผิดต่างหาก แต่การตรวจวิธีคิดด้วยตัวเอง อาจจะทำให้ทุกคนรู้สึกงงว่า “ผิดตรงไหน” และไม่เข้าใจมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ ดังนั้น อาจจะให้ผู้ที่มีความมีเชี่ยวชาญมากกว่าในการช่วยเหลือ เช่น เพื่อน คุณครู หาติวเตอร์คณิตศาสตร์ หรือตามโลกออนไลน์ก็ได้เช่นกัน แต่อย่าลืม!!! ทำความเข้าใจด้วยตัวเองด้วย ว่าจุดนั้นผิดเพราะอะไร และวิธีคิดที่ถูกต้องเป็นยังไง?

“อย่าคิดแต่จะเก่งขึ้นด้วยตัวเอง ถ้าทำไม่ได้จริงๆ ลองหาคนเก่งๆ ช่วยปูทางและแนะแนวให้”

6. ฝึกฝนทำโจทย์บ่อยๆ

หาเวลาว่างซักอย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อฝึกฝนทำโจทย์บ่อยๆ ซึ่งเดี๋ยวนี้หาโจทย์ได้เยอะแยะในโลกออนไลน์ เพื่อช่วยให้ทุกคนเก่งขึ้น แม่นขึ้น และทำโจทย์ได้เร็วยิ่งขึ้นด้วย โดยแรกๆ อาจจะเริ่มจากโจทย์ง่ายๆ ที่ประยุกต์น้อยๆ ละค่อยๆ เพิ่มระดับให้ยากและโจทย์ที่ประยุกต์มากขึ้น จะได้เจอโจทย์หลายๆ รูปแบบ เพิ่มความเข้าใจให้มากขึ้น และไม่กลัว ไม่ตกใจ เมื่อไปเจอโจทย์ใหม่ๆในห้องสอบ

“คณิตศาสตร์ไม่ใช่วิชาจำ ดังนั้นต่อให้จำเก่งแค่ไหน ถ้าไปโจทย์ใหม่ๆในห้องสอบ ก็อาจจะทำไม่ได้เช่นกัน”